Tiboodoo Kids วิธีดูแลรักษาเสื้อผ้าเด็ก

วิธีดูแลรักษาเสื้อผ้าเด็ก

เสื้อผ้าเด็ก

ต้องบอกเลยว่าการดูแลรักษาเสื้อผ้าเด็กนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับคุณแม่อย่างยิ่ง ส่วนหนึ่งก็เพราะว่าการดูแลเสื้อผ้าของเด็กนั้นจะช่วยให้เด็กๆ มีสุขภาพและมีสุขอนามัยที่ดีนั่นเอง อย่างไรก็ดีหากว่าคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่อยากให้การดูแลรักษาเสื้อผ้าเด็กเกิดประโยชน์สำหรับลูกน้อย มาดูวิธีไปพร้อมกัน 

1.ซักด้วยน้ำยาซักผ้าสำหรับเด็ก 

สำหรับวิธีการซักผ้าให้เด็กสิ่งแรกที่ต้องคำนึงถึงมากที่สุดก็คือการซักผ้าด้วยน้ำยาสำหรับเด็ก อาจจะกล่าวได้ว่าการซักผ้าด้วยน้ำยาสำหรับเด็ก เป็นสิ่งที่จะทำให้ผ้าปราศจากเชื้อโรคได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญมากที่สุดก็คือเมื่อซักผ้าด้วยน้ำยาซักผ้าเด็กก็จะสะอาด ถนอมผ้าได้มากกว่าเดิม 

2.น้ำยาปรับผ้านุ่มจำเป็นหรือไม่ 

อีกหนึ่งข้อสงสัยสำหรับคุณแม่ทุกคนก็คือ น้ำยาปรับผ้านุ่มจำเป็นมากน้อยเพียงใด เพราะแท้ที่จริงแล้วน้ำยาปรับผ้านุ่มนั้น มีความเหมาะสมและตอบโจทย์มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ว่าอาจจะระคายเคืองผ้ามากกว่าเดิม ดังนั้นเราควรพิจารณายี่ห้อของน้ำยาปรับผ้านุ่มที่เหมาะสมกับตนเองมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และเน้นไปที่ประโยชน์ของการใช้สอย รวมไปถึงกลิ่นที่หอมสะอาด อย่างไรก็ดี อย่าลืมดูด้วยว่ามีสารที่ก่อให้เกิดอาการแพ้หรือไม่ หากว่ามีสารเหล่านี้ก็ควรที่จะเลี่ยงยี่ห้อดังกล่าวไปเลยจะดีกว่า 

3.ราคาของน้ำยาซักผ้า 

อีกหนึ่งอย่างที่ต้องคำนึงถึงก็คือราคาของน้ำยาซักผ้าสมเหตุสมผลหรือไม่ มากหรือน้อยอย่างไร เพราะว่าราคาของน้ำยาซักผ้าที่ดี ควรที่จะไม่จำเป็นต้องแพงแต่อย่างใด แต่เน้นไปที่ความเหมาะสม ที่สำคัญที่สุดอย่าลืมพิจารณาน้ำยาปรับผ้านุ่มด้วยว่าราคาแพงหรือไม่ อย่างไรก็ดีควรเน้นไปที่สินค้าสำหรับเด็ก และไม่ควรซักผ้าปนกัน 

4.แยกประเภทของผ้า 

สำหรับผ้าอ้อม และเสื้อผ้าเด็กนั้นควรที่จะแยกเอาไว้ก่อนจะดีกว่า ไม่เช่นนั้นอาจจะทำให้คุณแม่ซักผ้ายากกว่าเดิม และหากคุณแม่ไม่มีเวลาจะซักในเครื่องซักผ้าก็ได้เช่นกัน แต่หากจะให้ดีควรจะทำการอบผ้าเพื่อให้ใยผ้าฟูกว่าเดิม ไม่ต้องตากที่ราวตากผ้าทำให้เกิดฝุ่นจนก่อให้เกิดเชื้อโรค ระคายเคืองตัวลูกน้อยอีกด้วยนั่นเอง 

5.รีดผ้า 

หากไม่มีเครื่องอบผ้าให้รีดผ้าเอาไว้ก่อนจะดีกว่า เพราะว่าการรีดผ้าจะทำให้เนื้อผ้าเนียนละเอียดไม่ระคายตัวลูกน้อยเช่นกัน 

และนี่ก็คือสิ่งที่คุณแม่ทุกคนไม่ควรมองข้ามสำหรับการดูแลเสื้อผ้าเด็ก เพื่อให้ลูกน้อยของเรามีสุขภาพดีและแข็งแรงอีกด้วยนั่นเอง เหมาะสมกับการดูแลเด็กๆ ทุกคนเลยก็ว่าได้

Related Post

พัฒนาการ

มารู้จักกับการพัฒนาเด็กเล็กด้วยวิธี EF ที่มีประสิทธิภาพมารู้จักกับการพัฒนาเด็กเล็กด้วยวิธี EF ที่มีประสิทธิภาพ

การพัฒนาเด็กเล็กด้วยการใช้วิธี EF นั้นเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ทำให้เด็กฉลาดและเก่งยิ่งขึ้น อีกทั้งยังสร้างความคิดสร้างสรรค์ให้กับเด็กอีกด้วย ซึ่งวิธีการนี้เป็นที่นิยมมากในหลาย ๆ ครอบครัวที่มีลูกน้อยที่อยู่ในวัยเติบโตและกำลังเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ในบทความนี้จึงมากล่าวถึงวิธีการพัฒนาเด็กเล็กด้วย EF ให้ทุกคนรู้จักเพื่อนำไปใช้กับบุตรหลานของแต่ละคนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ความหมายของ EF EF หรือก็คือ Executive Functions คือกระบวนการคิดที่ทำงานด้วยการใช้สมองส่วนหน้า ซึ่งเป็นสมองที่มีความเกี่ยวข้องทางด้านความรู้สึก ความคิด การกระทำ ยกตัวอย่างเช่น การควบคุมอารมณ์ การไตร่ตรองสิ่งต่าง ๆ ความมุ่งมั่น การตั้งเป้าหมายเกี่ยวกับเรื่องที่ต้องการจะทำ การวางแผน ความยับยั้งชั่งใจ การเรียงลำดับความสำคัญ

พัฒนาการ

วิธีการกระตุ้นให้เด็กน้อยพูด มีอะไรบ้าง ไปดูกันวิธีการกระตุ้นให้เด็กน้อยพูด มีอะไรบ้าง ไปดูกัน

ในการกระตุ้นให้เด็กสามารถพูดได้ ซึ่งอยู่ช่วงวัยกำลังหัดพูดแต่บางครอบครัวมีปัญหาเรื่องของการที่ลูกน้อยไม่พูดไปตามวัย จึงต้องมีวิธีกระตุ้นเพื่อให้เด็กพูดออกมา โดยมีอยู่หลากหลายวิธีด้วยกันให้นำมาใช้กับบุตรหลานของพวกคุณ บทความนี้จะมากล่าวถึงวิธีช่วยกระตุ้นเด็กเล็กให้พูด ว่ามีวิธีอะไรบ้าง ทำไมการทำให้เด็กพูดได้จึงสำคัญ หลาย ๆ คนอาจจะคิดว่า เด็กจะพูดได้อย่างเป็นธรรมชาติเมื่อเวลาผ่านไปตามวัย ไม่จำเป็นต้องกระตุ้นให้พูดก็ได้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว หากไม่ทำให้เด็กพูดตามวัยที่เหมาะสมแล้ว เด็กจะไม่อาจพูดออกมาได้เมื่อเลยวัยนั้น ๆ และไม่รู้จักการพูดว่าเป็นอย่างไร ต้องเริ่มพูดแบบไหน จนกลายเป็นเด็กที่พูดไม่เป็น การใช้วิธีกระตุ้นให้พูดจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ และคนเลี้ยงเด็กไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่หรือผู้ปกครองต้องใส่ใจเป็นอย่างมาก เพื่อให้เด็กน้อยเติบโตขึ้นมาได้อย่างมีคุณภาพและมีอนาคตที่สดใส ไม่เกิดปัญหาเกี่ยวกับการพูดในภายหลังเมื่อโตขึ้น ซึ่งวิธีกระตุ้นให้เด็กพูดนั้น จะกล่าวถึงในหัวข้อถัดไป วิธีกระตุ้นให้เด็กพูดทั้ง 10 วิธี สำหรับวิธีที่กระตุ้นให้เด็กสามารถพูดได้ จะมีอยู่ทั้งหมด

พัฒนาการ

เรื่องราวของเด็กที่อยู่บ้านคนเดียวในโลกสมัยใหม่เรื่องราวของเด็กที่อยู่บ้านคนเดียวในโลกสมัยใหม่

ในโลกปัจจุบันนี้ ดูเหมือนว่าการทิ้งเด็กไว้ที่บ้านตลอดทั้งวันจะกลายเป็นเรื่องธรรมดามากขึ้นเรื่อย ๆ พวกเขาอาจจะดูทีวี เล่นวิดีโอเกม หรือเพียงแค่ท่องอินเทอร์เน็ต ปรากฏการณ์นี้เติบโตขึ้นเนื่องจากความคิดที่ว่าเด็กต้องการเวลาสำหรับตัวเองและผู้ปกครองไม่ควรที่จะเอาแต่ใจ แต่เด็กเหล่านี้ทำอะไรเมื่ออยู่คนเดียว? และผู้ใหญ่อย่างเราจะหลีกเลี่ยงสถานการณ์ดังกล่าวได้อย่างไร? เป็นเรื่องปกติที่เด็กจะถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพังที่บ้าน ไม่ควรปล่อยให้พวกเขาอยู่บ้านคนเดียวก่อนที่พวกเขาจะโตพอ อายุจะขึ้นอยู่กับระดับวุฒิภาวะของเด็ก ระดับความรับผิดชอบ และความรับผิดชอบที่พวกเขาได้รับที่บ้าน อาจเป็นการดีที่สุดที่จะรอจนกว่าพวกเขาจะอายุ 12 ปี จึงจะปล่อยให้อยู่บ้านตามลำพังได้ จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเราปล่อยให้ลูกอยู่คนเดียว? ในอดีต การเลี้ยงลูกทำได้ง่ายกว่าเพราะไม่มีความเสี่ยงให้กังวลมากนัก เด็ก ๆ จะไม่เดือดร้อนเพราะเบื่อหรือไม่มีทางเลือกอื่น แต่ตอนนี้ด้วยหน้าจอและแอปทั้งหมดที่มีให้ จึงเป็นเรื่องยากที่จะป้องกันไม่ให้เด็ก ๆ โต้ตอบกับเทคโนโลยีเมื่ออยู่บ้านคนเดียว พวกเขาอาจเข้าถึงเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมหรือพบกับคนแปลกหน้าทางออนไลน์ที่อาจนำไปสู่สถานการณ์ที่ไม่ปลอดภัย เพื่อให้ลูก